ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroidism, Overactive Thyroid) เป็นภาวการณ์ที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนออกมามากเกินความจำเป็น ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานมากขึ้น เป็นต้นเหตุทำให้น้ำหนักน้อยลงอย่างเร็วแบบไม่ปกติ หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นไม่ปกติ เหงื่อออกง่าย แล้วก็รำคาญ ไม่พอใจ ฯลฯ
ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
ต่อมไทรอยด์ คือต่อมที่อยู่ข้างหน้าของรอบๆคอใต้ลูกกระเดือก รวมทั้งใกล้กับหลอดลม มีลักษณะเหมือนผีเสื้อ ลักษณะด้านกายภาพของต่อมแบ่งเป็นทั้งสิ้น 2 ด้านเป็นส่วนซ้ายและก็ส่วนขวา ซึ่งต่อม 2 ส่วนจะเชื่อมกันด้วยเยื่ออิสมัส (Isthmus) โดยต่อมไทรอยด์จะปฏิบัติหน้าที่สำหรับเพื่อการผลิตฮอร์โมนไทโรซีน (Thyroxine - T4) และก็ฮอร์โมนไทรไอโอโดไทโรนีน (Triiodothyronine - T3) ซึ่งปฏิบัติภารกิจสำหรับการควบคุมการเผาของร่างกายและก็ฮอร์โมนแคลสิโทนิน (Calcitonin) ที่ปฏิบัติหน้าที่สำหรับการควบคุมระดับแคลเซียมรวมทั้งธาตุฟอสฟอรัสในระบบไหลเวียนของเลือด ซึ่งหากกำเนิดความแตกต่างจากปกติกระทั่งทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินความจำเป็น ฮอร์โมนไทโรซีน รวมทั้งฮอร์โมนไทรไอโอโดไทโรนีน ก็จะถูกสร้างออกมามากมายจนถึงแปลงเป็นพิษ
ลักษณะของต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
อาการต่อมไทรอยด์เป็นพิษออกจะไม่แน่ชัดรวมทั้งคล้ายกับลักษณะการเจ็บป่วยไข้อื่นๆดังนี้หากคนไข้มีสภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษที่ไม่ร้ายแรงเท่าไรนัก ก็บางทีอาจไม่มีอาการใดๆก็ตามแสดงออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสูงอายุที่อาการมักไม่ค่อยแสดงออกอย่างแจ่มแจ้งมากสักเท่าไรนัก แต่อาการต่อมไทยรอยด์เป็นพิษก็นับว่าเป็นโรคที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้
อาการที่พบได้บ่อยที่สุดในมีลักษณะต่อมไทรอยด์เป็นพิษก็คือ อาการคอพอก ซึ่งเป็นอาการที่ต่อมไทรอยด์โตขึ้น คนเจ็บจะรู้สึกหรือมองเห็นก้อนขนาดใหญ่ที่รอบๆคอ ซึ่งบางทีหมอก็บางทีอาจสามารถตรวจเจออาการคอพอกได้ นอกเหนือจากนั้นยังมีลักษณะอาการอื่นๆที่เกิดขึ้นมาจากโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษได้ อาทิเช่น
อารมณ์ผันแปร กังวล อารมณ์เสียง่าย ไม่มีสมาธิ
อาเจียน อ้วก ถ่ายเหลว
นอนยาก
มีปัญหาสายตา ตัวอย่างเช่น ตาโปน เห็นภาพซ้อน ฯลฯ
สุขภาพผมแปรไป ผมบอบบางขาดง่าย แล้วก็มีลักษณะอาการผมหล่น
สตรีมีรอบเดือนไม่ปกติ ระดูมีสีจางรวมทั้งมาไม่บ่อยนัก
กล้ามอ่อนล้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบๆต้นขารวมทั้งต้นแขน
เล็บยาวเร็วแตกต่างจากปกติ
หัวใจเต้นเร็วมากกว่า 100 ครั้ง/นาที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงวัย
มือสั่นตลอดระยะเวลา
มีลักษณะอาการคัน
เหงื่อออกมาก
ผิวหนังบาง
น้ำหนักลด แต่ว่ามีความต้องการของกินมากยิ่งขึ้น
บางทีอาจเจอเต้านมมีขนาดใหญ่ขึ้นในผู้ชาย
ดังนี้ถ้าหากเริ่มมีลักษณะพวกนี้เกิดขึ้น ควรจะรีบไปพบหมอ เนื่องจากอาการพวกนี้บางทีอาจเป็นสัญญาณสำคัญของปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆหรือเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากเนื้องงมากอกที่รอบๆต่อมหมวกไตได้ ถ้าเกิดปลดปล่อยไว้จะยิ่งรักษาได้ยากมากยิ่งขึ้น
ต้นเหตุของต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
ที่มาของโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ มีต้นเหตุมาจากการที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเปลี่ยนไปจากปกติ จนถึงทำให้ร่างกายมีจำนวนของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์มากยิ่งกว่าความอยากของร่างกาย แล้วก็มีสถานการณ์เป็นพิษ กระทั่งมีผลต่อร่างกายในด้านต่างๆโดยต่อมไทรอยด์เป็นพิษ เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจาก 3 ปัจจัยสำคัญๆดังเช่น
โรคเกรฟวส์ (Graves' Disease) จะก่อให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนไทโรซีนออกมามากมายไม่ปกติจนถึงเปลี่ยนเป็นพิษ ซึ่งยังคงไม่เคยรู้ต้นเหตุที่แจ้งชัดว่าโรคเกรฟวส์นั้นเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากอะไร เจอเพียงแต่ว่าโรคดังกล่าวมาแล้วข้างต้นมักเกิดขึ้นในเพศหญิงในวัยรุ่นแล้วก็กลางคน ทั้งยังยังเป็นไปได้ว่าเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยการสูบยาสูบจะยิ่งเพิ่มการเสี่ยงโรคเกรฟวส์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
การทานอาหาร การทานอาหารที่มีไอโอดีนมากจนเกินไปก็สามารถนำไปสู่โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ เนื่องด้วยไอโอดีนเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับเพื่อการผลิตฮอร์โมนต่อมไทรอยด์
เนื้องอกที่ต่อมไทรอยด์ เป็นในกรณีที่เจอได้น้อย เนื้องอกที่เกิดรอบๆต่อมไทรอยด์ แล้วก็เนื้องอกที่เกิดรอบๆต่อมใต้สมอง อาจทำให้มีการหลั่งของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์มากเพิ่มขึ้นกระทั่งแปลงเป็นพิษได้
การอักเสบของต่อมไทรอยด์ (Thyroiditis) การอักเสบที่ไม่รู้สิ่งที่ทำให้เกิดต่อมไทรอยด์สามารถมีผลต่อรูปแบบการทำงานของของต่อมไทรอยด์ได้ โดยการอักเสบของต่อมไทรอยด์จะก่อให้ฮอรความนิ่งต่อมไทรอยด์ถูกสร้างออกมามากเพิ่มขึ้น และก็ทำให้ฮอร์โมนรั่วไหลออกไปที่กระแสโลหิต ดังนี้การอักเสบของต่อมไทรอยด์โดยมากไม่มีลักษณะการเจ็บ นอกจากอาการต่อมไทรอยด์อักเสบแบบครึ่งฉับพลันที่เกิดขึ้นได้น้อย สามารถก่อให้เกิดลักษณะการเจ็บได้
การได้รับการเสริมฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ที่มากเหลือเกิน ยาที่มีส่วนประกอบของไอโอดีนบางจำพวก ตัวอย่างเช่น ยาอะไมโอดาโรน (Amiodarone) ที่ใช้สำหรับการรักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ จะก่อให้มีการหลั่งของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์มากเพิ่มขึ้นจนถึงเปลี่ยนเป็นพิษ
การวิเคราะห์โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
การวิเคราะห์ด้วยตัวเอง แนวทางวินิจฉัยโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษด้วยตัวเองแบบง่ายๆก็คือการสังเกตความแปลกของร่างกาย ถ้ามีลักษณะอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นโดยไม่มีต้นเหตุ ไม่ว่าจะเป็น น้ำหนักลดเปลี่ยนไปจากปกติ มือสั่น อ่อนแรงง่าย หายใจสั้น หรือมีลักษณะบวมที่รอบๆคอ ควรจะรีบไปพบหมอเพื่อกระทำตรวจให้กระจ่างแจ้ง
การวิเคราะห์โดยหมอ การวิเคราะห์อาการโดยหมอสามารถทำเป็นหลายแนวทาง ซึ่งในขั้นแรก ufabet หมอจะซักความเป็นมาเกี่ยวกับปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพหรือเรื่องราวรักษา รวมทั้งการตรวจร่างกายข้างนอกเพื่อหาสัญญาณของโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ซึ่งสัญญาณของโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ อาทิเช่น
น้ำหนักลด
ชีพจรเต้นเร็ว
ความดันเลือดสูง
ตาโปน
ต่อมไทรอยด์โต
ถ้ามีลักษณะอาการพวกนี้ หมอบางทีอาจกระทำสั่งตรวจเพิ่มอีกด้วยการตรวจ 2 แนวทางเป็น การพิสูจน์เลือด รวมทั้งการเอกซเรย์
การพิสูจน์เลือด - การวิเคราะห์เลือดจะเน้นย้ำไปที่การตรวจเพื่อเช็กแนวทางการทำงานของต่อมไทรอยด์ แล้วก็การเผา อาทิเช่น
วัดจำนวนฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ จำนวนของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ T3 และก็ T4 ในเลือดเป็นสิ่งระบุชัดเจนได้ถึงรูปแบบการทำงานของต่อมไทรอยด์ว่าแตกต่างจากปกติไหม ถ้าหากกว่าแตกต่างจากปกติก็แสดงว่ามีลักษณะอาการของโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
วัดลักษณะการทำงานของต่อมใต้สมอง (Thyroid-Stimulating Hormone: TSH) เป็นการวัดจำนวนฮอร์โมนต่อมใต้สมองซึ่งมีบทบาทควบคุมรูปแบบการทำงานของต่อมไทรอยด์
การวัดระดับจำนวนแอนติบอดีของต่อมไทรอยด์ (Thyroidglobulin) ซึ่งจะช่วยวินิจฉัยโรคเกรฟวส์ได้
การเอกซเรย์ - จะช่วยทำให้หมอสามารถมองเห็นการทำงานรวมทั้งความผิดแปลกของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ได้ชัดขึ้น โดยใช้แนวทางดังต่อไปนี้
การตรวจอัลตราซาวด์ เป็นการตรวจที่จะช่วยวัดขนาดของต่อมไทรอยด์และก็ความแปลกของต่อมไทรอยด์ ซึ่งวิธีแบบนี้จะช่วยทำให้หมอเห็นความไม่ดีเหมือนปกติได้
การตรวจต่อมไทรอยด์ (Thyroid Scan) เป็นการตรวจโดยใช้รังสีเพื่อมองเห็นรูปแบบการทำงานของต่อมไทรอยด์ ซึ่งจะช่วยทำให้มีความคิดเห็นว่าต่อมไทรอยด์มีการปฏิบัติงานที่มากกว่าธรรมดาหรือเปล่า
การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบซีทีสแกน (CT Scan) หรือเอ็มอาร์ไอ (MRI) ใช้ในเรื่องที่หมอสงสัยว่าความเปลี่ยนไปจากปกติของต่อมไทรอยด์อาจมีเนื้องอกหรือโรคมะเร็งผสม แล้วก็การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองจะใช้ในกรณีคราวหมอสงสัยว่าโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษอาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากต่อมใต้สมองหลั่งฮอร์โมนไม่ปกติ
ดังนี้ถ้าหากเอกซเรย์แล้วพบว่ามีการเจอเนื้องอก ก็ควรจะมีการเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างเพื่อส่งไปเพื่อทำการตรวจถัดไปว่าใช่เนื้องอกจากโรคมะเร็งหรือเปล่า เมื่อหมอรู้สิ่งที่ทำให้เกิดโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษแล้วจึงรักษาในขั้นถัดไป
การดูแลและรักษาโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
การดูแลและรักษาโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษต้องขึ้นกับสาเหตุหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็น อายุ ข้อจำกัดทางร่างกาย รวมทั้งมูลเหตุรวมทั้งความร้ายแรงของโรค โดยแนวทางที่ใช้เพื่อการรักษามีดังนี้
การกินยาต้านทานต่อมไทรอยด์ ยาเมไทมาโซล (Methimazole: MMI) รวมทั้งยาโพพิลไทโออูราสิล (Propylthiouracil: PTU) เป็นยาต้านทานต่อมไทรอยด์ที่มีการใช้ในประเทศไทยอย่างล้นหลาม โดยกลไกลักษณะการ แทงบอลออนไลน์ ทำงานของยาเป็น ตัวยาจะเข้าไปกีดกันการผลิตฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ไม่ให้สร้างฮอร์โมนมากจนเกินความจำเป็นด้านใน 2-8 อาทิตย์ ซึ่งหมอจะเป็นผู้จัดจำนวนการใช้ยาให้ทุกๆ4 อาทิตย์ โดยพินิจจากผลของการตรวจระดับฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ ซึ่งการดูแลรักษาด้วยยาต่อต้านต่อมไทรอยด์ต้องใช้เวลาขั้นต่ำ 1 ปี หรือมากยิ่งกว่านั้น ขึ้นกับระดับฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ภายในร่างกายของผู้เจ็บป่วย ดังนี้ผลกระทบจากการใช้ยาที่เจอได้ก็คือ ลักษณะของการแพ้ยาที่อาจจะทำให้เกิดผื่น เป็นไข้ แล้วก็ปวดตามข้อ แม้กระนั้นก็บางทีอาจเป็นผลข้างๆที่ร้ายแรงอย่างสภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (Agranulocytosis) แม้กระนั้นเจอได้น้อย ทำให้สำหรับเพื่อการใช้ยานี้หมอบางทีอาจควรมีการเจาะเลือดเพื่อตรวจระดับเม็ดเลือดขาวพร้อมกันไปกับการดูแลรักษาในเรื่องที่สงสัยว่าผู้เจ็บป่วยมีสภาวะนี้ด้วย
การดูแลรักษาด้วยรังสีไอโอดีน (Radioactive Iodine) เป็นการรักษาโดยใช้การกินสารรังสีไอโอดีน ซึ่งเป็นสารที่มีความปลอดภัย ขึ้นรถประเภทนี้จะถูกดูดซับโดยต่อมไทรอยด์ แล้วก็ทำลายเนื้อต่อม ทำให้ต่อมไทรอยด์เบาๆหดตัวลงและก็อาการจะเบาๆ ใช้ช่วงเวลาสำหรับการรักษาราว 3-6 เดือน แต่ว่าก็ส่งผลข้างๆเป็นจะก่อให้ต่อมไทรอยด์ปฏิบัติงานได้ลดลงจนถึงเกิดภาวะฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ต่ำ คนป่วยต้องกินยาเสริมฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ร่วมด้วย การดูแลรักษาด้วยรังสีนี้จะใช้กับคนป่วยต่อมไทรอยด์เป็นพิษที่แก่มากยิ่งกว่า 60 ปีขึ้นไป
การผ่าตัดต่อมต่อมไทรอยด์ (Thyroidectomy) ในเรื่องที่คนไข้อยู่ในภาวการณ์ตั้งท้อง หรือเปล่าสามารถใช้ยาสำหรับการรักษาหรือรักษาโดยใช้รังสีไอโอดีนได้ การผ่าตัดก็จะช่วยรักษาโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษได้ แต่ว่ากำเนิดในเรื่องที่น้อยมาก โดยสำหรับเพื่อการผ่าตัด หมอจะนำต่อมไทรอยด์โดยมากออกเพื่อรักษาอาการ แม้กระนั้นการเสี่ยงสำหรับการผ่าตัดก็คือบางทีอาจทำลายเส้นเสียงและก็ต่อมพาราต่อมไทรอยด์ได้ และก็ภายหลังจากทำผ่าตัดแล้ว คนป่วยต้องกินยาเพื่อรักษาระดับฮอร์โมนไปชั่วชีวิต ทั้งถ้าหากสำหรับการผ่าตัดมีการนำเอาต่อมพาราต่อมไทรอยด์ออกไปด้วย คนเจ็บต้องกินยาเพื่อควบคุมระดับแคลเซียมด้วย
การใช้ยาต้านทานเบต้า (Beta Blockers) ยาต่อต้านเบต้าจะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง ทุเลาอาการใจสั่น และก็อาการกังวลกลังวล รวมทั้งมักใช้กับคนไข้ที่มีความดันเลือดสูง แต่ยาดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นก็ส่งผลใกล้กัน ดังเช่นว่า ทำให้มีความรู้สึกอ่อนแรง ปวดศรีษะ ท้องไส้ป่วนปั่น ท้องผูก ท้องเดิน หรือหน้ามืดหัว
การปรับพฤติกรรมการกินอาหาร โรคต่อมไทรอยด์สามารถก่อให้เกิดภาวการณ์ขาดน้ำได้ การกินน้ำอย่างพอเพียงจะช่วยลดสภาวะขนาดน้ำและก็ทำให้อาการ
นอกนั้น ในระหว่างการดูแลรักษาโรคต่อมไทรอยด์ ผู้เจ็บป่วยต้องเปลี่ยนแปลงการทานอาหาร โดยย้ำของกินที่มีแคลเซียมและก็โซเดียมให้มากยิ่งขึ้น แต่ว่าจำเป็นต้องควบคุมให้อยู่ในระดับที่พอดี นอกจากนั้นต่อมไทรอยด์เป็นพิษยังส่งผลให้กระดูกบางลง ฉะนั้นจำเป็นที่จะต้องทานอาหารเสริมที่มีแคลเซียมและก็วิตามินดีพร้อมๆกันด้วยในระหว่างการดูแลและรักษาหรือภายหลังจากหายแล้ว เพื่อบำรุงกระดูกให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งหมอจะเป็นผู้แนะนำจำนวนของอาหารเสริม รวมทั้งช่วยคิดแผนสำหรับการทานอาหารรวมถึงการบริหารร่างกายแก่คนไข้
ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
ต่อมไทรอยด์ คือต่อมที่อยู่ข้างหน้าของรอบๆคอใต้ลูกกระเดือก รวมทั้งใกล้กับหลอดลม มีลักษณะเหมือนผีเสื้อ ลักษณะด้านกายภาพของต่อมแบ่งเป็นทั้งสิ้น 2 ด้านเป็นส่วนซ้ายและก็ส่วนขวา ซึ่งต่อม 2 ส่วนจะเชื่อมกันด้วยเยื่ออิสมัส (Isthmus) โดยต่อมไทรอยด์จะปฏิบัติหน้าที่สำหรับเพื่อการผลิตฮอร์โมนไทโรซีน (Thyroxine - T4) และก็ฮอร์โมนไทรไอโอโดไทโรนีน (Triiodothyronine - T3) ซึ่งปฏิบัติภารกิจสำหรับการควบคุมการเผาของร่างกายและก็ฮอร์โมนแคลสิโทนิน (Calcitonin) ที่ปฏิบัติหน้าที่สำหรับการควบคุมระดับแคลเซียมรวมทั้งธาตุฟอสฟอรัสในระบบไหลเวียนของเลือด ซึ่งหากกำเนิดความแตกต่างจากปกติกระทั่งทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินความจำเป็น ฮอร์โมนไทโรซีน รวมทั้งฮอร์โมนไทรไอโอโดไทโรนีน ก็จะถูกสร้างออกมามากมายจนถึงแปลงเป็นพิษ
ลักษณะของต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
อาการต่อมไทรอยด์เป็นพิษออกจะไม่แน่ชัดรวมทั้งคล้ายกับลักษณะการเจ็บป่วยไข้อื่นๆดังนี้หากคนไข้มีสภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษที่ไม่ร้ายแรงเท่าไรนัก ก็บางทีอาจไม่มีอาการใดๆก็ตามแสดงออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสูงอายุที่อาการมักไม่ค่อยแสดงออกอย่างแจ่มแจ้งมากสักเท่าไรนัก แต่อาการต่อมไทยรอยด์เป็นพิษก็นับว่าเป็นโรคที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้
อาการที่พบได้บ่อยที่สุดในมีลักษณะต่อมไทรอยด์เป็นพิษก็คือ อาการคอพอก ซึ่งเป็นอาการที่ต่อมไทรอยด์โตขึ้น คนเจ็บจะรู้สึกหรือมองเห็นก้อนขนาดใหญ่ที่รอบๆคอ ซึ่งบางทีหมอก็บางทีอาจสามารถตรวจเจออาการคอพอกได้ นอกเหนือจากนั้นยังมีลักษณะอาการอื่นๆที่เกิดขึ้นมาจากโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษได้ อาทิเช่น
อารมณ์ผันแปร กังวล อารมณ์เสียง่าย ไม่มีสมาธิ
อาเจียน อ้วก ถ่ายเหลว
นอนยาก
มีปัญหาสายตา ตัวอย่างเช่น ตาโปน เห็นภาพซ้อน ฯลฯ
สุขภาพผมแปรไป ผมบอบบางขาดง่าย แล้วก็มีลักษณะอาการผมหล่น
สตรีมีรอบเดือนไม่ปกติ ระดูมีสีจางรวมทั้งมาไม่บ่อยนัก
กล้ามอ่อนล้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบๆต้นขารวมทั้งต้นแขน
เล็บยาวเร็วแตกต่างจากปกติ
หัวใจเต้นเร็วมากกว่า 100 ครั้ง/นาที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงวัย
มือสั่นตลอดระยะเวลา
มีลักษณะอาการคัน
เหงื่อออกมาก
ผิวหนังบาง
น้ำหนักลด แต่ว่ามีความต้องการของกินมากยิ่งขึ้น
บางทีอาจเจอเต้านมมีขนาดใหญ่ขึ้นในผู้ชาย
ดังนี้ถ้าหากเริ่มมีลักษณะพวกนี้เกิดขึ้น ควรจะรีบไปพบหมอ เนื่องจากอาการพวกนี้บางทีอาจเป็นสัญญาณสำคัญของปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆหรือเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากเนื้องงมากอกที่รอบๆต่อมหมวกไตได้ ถ้าเกิดปลดปล่อยไว้จะยิ่งรักษาได้ยากมากยิ่งขึ้น
ต้นเหตุของต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
ที่มาของโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ มีต้นเหตุมาจากการที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเปลี่ยนไปจากปกติ จนถึงทำให้ร่างกายมีจำนวนของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์มากยิ่งกว่าความอยากของร่างกาย แล้วก็มีสถานการณ์เป็นพิษ กระทั่งมีผลต่อร่างกายในด้านต่างๆโดยต่อมไทรอยด์เป็นพิษ เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจาก 3 ปัจจัยสำคัญๆดังเช่น
โรคเกรฟวส์ (Graves' Disease) จะก่อให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนไทโรซีนออกมามากมายไม่ปกติจนถึงเปลี่ยนเป็นพิษ ซึ่งยังคงไม่เคยรู้ต้นเหตุที่แจ้งชัดว่าโรคเกรฟวส์นั้นเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากอะไร เจอเพียงแต่ว่าโรคดังกล่าวมาแล้วข้างต้นมักเกิดขึ้นในเพศหญิงในวัยรุ่นแล้วก็กลางคน ทั้งยังยังเป็นไปได้ว่าเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยการสูบยาสูบจะยิ่งเพิ่มการเสี่ยงโรคเกรฟวส์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
การทานอาหาร การทานอาหารที่มีไอโอดีนมากจนเกินไปก็สามารถนำไปสู่โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ เนื่องด้วยไอโอดีนเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับเพื่อการผลิตฮอร์โมนต่อมไทรอยด์
เนื้องอกที่ต่อมไทรอยด์ เป็นในกรณีที่เจอได้น้อย เนื้องอกที่เกิดรอบๆต่อมไทรอยด์ แล้วก็เนื้องอกที่เกิดรอบๆต่อมใต้สมอง อาจทำให้มีการหลั่งของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์มากเพิ่มขึ้นกระทั่งแปลงเป็นพิษได้
การอักเสบของต่อมไทรอยด์ (Thyroiditis) การอักเสบที่ไม่รู้สิ่งที่ทำให้เกิดต่อมไทรอยด์สามารถมีผลต่อรูปแบบการทำงานของของต่อมไทรอยด์ได้ โดยการอักเสบของต่อมไทรอยด์จะก่อให้ฮอรความนิ่งต่อมไทรอยด์ถูกสร้างออกมามากเพิ่มขึ้น และก็ทำให้ฮอร์โมนรั่วไหลออกไปที่กระแสโลหิต ดังนี้การอักเสบของต่อมไทรอยด์โดยมากไม่มีลักษณะการเจ็บ นอกจากอาการต่อมไทรอยด์อักเสบแบบครึ่งฉับพลันที่เกิดขึ้นได้น้อย สามารถก่อให้เกิดลักษณะการเจ็บได้
การได้รับการเสริมฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ที่มากเหลือเกิน ยาที่มีส่วนประกอบของไอโอดีนบางจำพวก ตัวอย่างเช่น ยาอะไมโอดาโรน (Amiodarone) ที่ใช้สำหรับการรักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ จะก่อให้มีการหลั่งของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์มากเพิ่มขึ้นจนถึงเปลี่ยนเป็นพิษ
การวิเคราะห์โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
การวิเคราะห์ด้วยตัวเอง แนวทางวินิจฉัยโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษด้วยตัวเองแบบง่ายๆก็คือการสังเกตความแปลกของร่างกาย ถ้ามีลักษณะอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นโดยไม่มีต้นเหตุ ไม่ว่าจะเป็น น้ำหนักลดเปลี่ยนไปจากปกติ มือสั่น อ่อนแรงง่าย หายใจสั้น หรือมีลักษณะบวมที่รอบๆคอ ควรจะรีบไปพบหมอเพื่อกระทำตรวจให้กระจ่างแจ้ง
การวิเคราะห์โดยหมอ การวิเคราะห์อาการโดยหมอสามารถทำเป็นหลายแนวทาง ซึ่งในขั้นแรก ufabet หมอจะซักความเป็นมาเกี่ยวกับปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพหรือเรื่องราวรักษา รวมทั้งการตรวจร่างกายข้างนอกเพื่อหาสัญญาณของโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ซึ่งสัญญาณของโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ อาทิเช่น
น้ำหนักลด
ชีพจรเต้นเร็ว
ความดันเลือดสูง
ตาโปน
ต่อมไทรอยด์โต
ถ้ามีลักษณะอาการพวกนี้ หมอบางทีอาจกระทำสั่งตรวจเพิ่มอีกด้วยการตรวจ 2 แนวทางเป็น การพิสูจน์เลือด รวมทั้งการเอกซเรย์
การพิสูจน์เลือด - การวิเคราะห์เลือดจะเน้นย้ำไปที่การตรวจเพื่อเช็กแนวทางการทำงานของต่อมไทรอยด์ แล้วก็การเผา อาทิเช่น
วัดจำนวนฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ จำนวนของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ T3 และก็ T4 ในเลือดเป็นสิ่งระบุชัดเจนได้ถึงรูปแบบการทำงานของต่อมไทรอยด์ว่าแตกต่างจากปกติไหม ถ้าหากกว่าแตกต่างจากปกติก็แสดงว่ามีลักษณะอาการของโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
วัดลักษณะการทำงานของต่อมใต้สมอง (Thyroid-Stimulating Hormone: TSH) เป็นการวัดจำนวนฮอร์โมนต่อมใต้สมองซึ่งมีบทบาทควบคุมรูปแบบการทำงานของต่อมไทรอยด์
การวัดระดับจำนวนแอนติบอดีของต่อมไทรอยด์ (Thyroidglobulin) ซึ่งจะช่วยวินิจฉัยโรคเกรฟวส์ได้
การเอกซเรย์ - จะช่วยทำให้หมอสามารถมองเห็นการทำงานรวมทั้งความผิดแปลกของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ได้ชัดขึ้น โดยใช้แนวทางดังต่อไปนี้
การตรวจอัลตราซาวด์ เป็นการตรวจที่จะช่วยวัดขนาดของต่อมไทรอยด์และก็ความแปลกของต่อมไทรอยด์ ซึ่งวิธีแบบนี้จะช่วยทำให้หมอเห็นความไม่ดีเหมือนปกติได้
การตรวจต่อมไทรอยด์ (Thyroid Scan) เป็นการตรวจโดยใช้รังสีเพื่อมองเห็นรูปแบบการทำงานของต่อมไทรอยด์ ซึ่งจะช่วยทำให้มีความคิดเห็นว่าต่อมไทรอยด์มีการปฏิบัติงานที่มากกว่าธรรมดาหรือเปล่า
การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบซีทีสแกน (CT Scan) หรือเอ็มอาร์ไอ (MRI) ใช้ในเรื่องที่หมอสงสัยว่าความเปลี่ยนไปจากปกติของต่อมไทรอยด์อาจมีเนื้องอกหรือโรคมะเร็งผสม แล้วก็การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองจะใช้ในกรณีคราวหมอสงสัยว่าโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษอาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากต่อมใต้สมองหลั่งฮอร์โมนไม่ปกติ
ดังนี้ถ้าหากเอกซเรย์แล้วพบว่ามีการเจอเนื้องอก ก็ควรจะมีการเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างเพื่อส่งไปเพื่อทำการตรวจถัดไปว่าใช่เนื้องอกจากโรคมะเร็งหรือเปล่า เมื่อหมอรู้สิ่งที่ทำให้เกิดโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษแล้วจึงรักษาในขั้นถัดไป
การดูแลและรักษาโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
การดูแลและรักษาโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษต้องขึ้นกับสาเหตุหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็น อายุ ข้อจำกัดทางร่างกาย รวมทั้งมูลเหตุรวมทั้งความร้ายแรงของโรค โดยแนวทางที่ใช้เพื่อการรักษามีดังนี้
การกินยาต้านทานต่อมไทรอยด์ ยาเมไทมาโซล (Methimazole: MMI) รวมทั้งยาโพพิลไทโออูราสิล (Propylthiouracil: PTU) เป็นยาต้านทานต่อมไทรอยด์ที่มีการใช้ในประเทศไทยอย่างล้นหลาม โดยกลไกลักษณะการ แทงบอลออนไลน์ ทำงานของยาเป็น ตัวยาจะเข้าไปกีดกันการผลิตฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ไม่ให้สร้างฮอร์โมนมากจนเกินความจำเป็นด้านใน 2-8 อาทิตย์ ซึ่งหมอจะเป็นผู้จัดจำนวนการใช้ยาให้ทุกๆ4 อาทิตย์ โดยพินิจจากผลของการตรวจระดับฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ ซึ่งการดูแลรักษาด้วยยาต่อต้านต่อมไทรอยด์ต้องใช้เวลาขั้นต่ำ 1 ปี หรือมากยิ่งกว่านั้น ขึ้นกับระดับฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ภายในร่างกายของผู้เจ็บป่วย ดังนี้ผลกระทบจากการใช้ยาที่เจอได้ก็คือ ลักษณะของการแพ้ยาที่อาจจะทำให้เกิดผื่น เป็นไข้ แล้วก็ปวดตามข้อ แม้กระนั้นก็บางทีอาจเป็นผลข้างๆที่ร้ายแรงอย่างสภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (Agranulocytosis) แม้กระนั้นเจอได้น้อย ทำให้สำหรับเพื่อการใช้ยานี้หมอบางทีอาจควรมีการเจาะเลือดเพื่อตรวจระดับเม็ดเลือดขาวพร้อมกันไปกับการดูแลรักษาในเรื่องที่สงสัยว่าผู้เจ็บป่วยมีสภาวะนี้ด้วย
การดูแลรักษาด้วยรังสีไอโอดีน (Radioactive Iodine) เป็นการรักษาโดยใช้การกินสารรังสีไอโอดีน ซึ่งเป็นสารที่มีความปลอดภัย ขึ้นรถประเภทนี้จะถูกดูดซับโดยต่อมไทรอยด์ แล้วก็ทำลายเนื้อต่อม ทำให้ต่อมไทรอยด์เบาๆหดตัวลงและก็อาการจะเบาๆ ใช้ช่วงเวลาสำหรับการรักษาราว 3-6 เดือน แต่ว่าก็ส่งผลข้างๆเป็นจะก่อให้ต่อมไทรอยด์ปฏิบัติงานได้ลดลงจนถึงเกิดภาวะฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ต่ำ คนป่วยต้องกินยาเสริมฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ร่วมด้วย การดูแลรักษาด้วยรังสีนี้จะใช้กับคนป่วยต่อมไทรอยด์เป็นพิษที่แก่มากยิ่งกว่า 60 ปีขึ้นไป
การผ่าตัดต่อมต่อมไทรอยด์ (Thyroidectomy) ในเรื่องที่คนไข้อยู่ในภาวการณ์ตั้งท้อง หรือเปล่าสามารถใช้ยาสำหรับการรักษาหรือรักษาโดยใช้รังสีไอโอดีนได้ การผ่าตัดก็จะช่วยรักษาโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษได้ แต่ว่ากำเนิดในเรื่องที่น้อยมาก โดยสำหรับเพื่อการผ่าตัด หมอจะนำต่อมไทรอยด์โดยมากออกเพื่อรักษาอาการ แม้กระนั้นการเสี่ยงสำหรับการผ่าตัดก็คือบางทีอาจทำลายเส้นเสียงและก็ต่อมพาราต่อมไทรอยด์ได้ และก็ภายหลังจากทำผ่าตัดแล้ว คนป่วยต้องกินยาเพื่อรักษาระดับฮอร์โมนไปชั่วชีวิต ทั้งถ้าหากสำหรับการผ่าตัดมีการนำเอาต่อมพาราต่อมไทรอยด์ออกไปด้วย คนเจ็บต้องกินยาเพื่อควบคุมระดับแคลเซียมด้วย
การใช้ยาต้านทานเบต้า (Beta Blockers) ยาต่อต้านเบต้าจะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง ทุเลาอาการใจสั่น และก็อาการกังวลกลังวล รวมทั้งมักใช้กับคนไข้ที่มีความดันเลือดสูง แต่ยาดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นก็ส่งผลใกล้กัน ดังเช่นว่า ทำให้มีความรู้สึกอ่อนแรง ปวดศรีษะ ท้องไส้ป่วนปั่น ท้องผูก ท้องเดิน หรือหน้ามืดหัว
การปรับพฤติกรรมการกินอาหาร โรคต่อมไทรอยด์สามารถก่อให้เกิดภาวการณ์ขาดน้ำได้ การกินน้ำอย่างพอเพียงจะช่วยลดสภาวะขนาดน้ำและก็ทำให้อาการ
นอกนั้น ในระหว่างการดูแลรักษาโรคต่อมไทรอยด์ ผู้เจ็บป่วยต้องเปลี่ยนแปลงการทานอาหาร โดยย้ำของกินที่มีแคลเซียมและก็โซเดียมให้มากยิ่งขึ้น แต่ว่าจำเป็นต้องควบคุมให้อยู่ในระดับที่พอดี นอกจากนั้นต่อมไทรอยด์เป็นพิษยังส่งผลให้กระดูกบางลง ฉะนั้นจำเป็นที่จะต้องทานอาหารเสริมที่มีแคลเซียมและก็วิตามินดีพร้อมๆกันด้วยในระหว่างการดูแลและรักษาหรือภายหลังจากหายแล้ว เพื่อบำรุงกระดูกให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งหมอจะเป็นผู้แนะนำจำนวนของอาหารเสริม รวมทั้งช่วยคิดแผนสำหรับการทานอาหารรวมถึงการบริหารร่างกายแก่คนไข้